ผู้ถือหุ้นบริษัทศรีกรุงวัฒนา กรุ๊ป กลุ่มแลนด์ลอร์ดที่ดินใจกลางเมือง ปรับยุทธศาสตร์ธุรกิจในเครือ “สยามอรุณ กรุ๊ป”ผู้นำให้บริการ‘เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์’ในสุขุมวิท เอกมัย แบรนด์ Citi Resort กว่า 1,300 ห้อง บริหารแลนด์แบงก์มูลค่าซื้อขายกว่าพันล้านบาท ผุดคอมมูนิตี้มอลล์ @ EKKAMAI เอกมัย ซ.9 เทสตลาดบิสซิเนสใหม่ ลุยต่อผุดโครงการเซอร์วิสฯใหม่ ภายใต้แบรนด์พรีเมียม “Living 2” สุขุมวิท 39 เงินลงทุน 1,300 ลบ.คาดเปิดบริการปี 68

นายจิรพัฒน์ เหตานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามอรุณ กรุ๊ป จำกัด ในเครือศรีกรุงวัฒนา กรุ๊ป กล่าวถึงกลยุทธ์บริหารที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)มูลค่าสูงในเมือง และการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจและการเปิดประเทศในขณะนี้ว่า สยามอรุณฯ ได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ โดยนำที่ดินผืนใหญ่บนเนื้อที่ 5 ไร่ ในเอกมัย ซอย 9 มาทดสอบตลาด พัฒนาโครงการแรก ภายใต้โมเดลบิสซิเนสใหม่ รูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้แบรนด์ @EKKAMAI โครงการค้าปลีกเต็มรูปแบบในลักษณะศูนย์การค้า

“เป็นการเพิ่มมูลค่าที่ดิน รองรับการเปิดไลน์ธุรกิจรีเทล ช่วยสร้างอนาคตทางธุรกิจ ให้กับบริษัทฯได้ ”นายจิรพัฒน์ ผู้บริหารที่เคยอยู่ในวงการก่อสร้างรายใหญ่ ASCON กล่าว และย้ำว่า

ที่ดินในย่านเอกมัย ปัจจุบันราคาซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้พุ่งสูงไปที่ตารางวาละประมาณ 1 ล้านบาทแล้ว หากลงทุนพัฒนาเป็นอาคารสูงอาจเกิดความผิดพลาดได้ จึงนำร่องในการพัฒนาเป็นโครงการคอมมูนิตี้มอลล์เพื่อทดสอบตลาดก่อน เพราะในระยะยาวจะสามารถเปิดกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น และสร้างการรับรู้แบรนด์ของสยามอรุณ กรุ๊ป ได้มากขึ้น หากในอนาคตได้รับการตอบรับดี ก็อาจจะนำรูปแบบรีเทลนี้ไปพัฒนาในโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่มีอยู่ และโครงการที่จะเกิดในอนาคตด้วย

“ต้องยอมรับว่าโควิด ทำให้ภาพการลงทุนเปลี่ยนไป โมเดลที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ ใช้ไม่ได้เลย แต่โควิด ทำให้มีเวลาคิดในการลงทุนระยะยาวได้ ซึ่งการลงทุนในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ สามารถปรับตัวได้ง่ายในอนาคต”

สำหรับโครงการ @EKKAMAI มีพื้นที่พาณิชย์ประมาณ 3,200 ตารางเมตร(ตร.ม.)ประกอบด้วย 16 ร้านค้าและมีที่จอดรถรองรับได้มากถึง 130 คัน รวมถึงที่จอดรถอีวี เน้นกลุ่มลูกค้า B ถึง B+ คาดพร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 27 มีนาคม 65 ราคาเช่าพื้นที่เฉลี่ย 1,500 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือน หรือปีละ 22 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์นั้น นายจิรพัฒน์ กล่าวว่า เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่องในธุรกิจหลักนั้น ในปี 2565 มีแผนที่นำที่ดินสะสมในซอยสุขุมวิท 39 ติดคลองแสนแสบ เนื้อที่ 2 ไร่เศษ พัฒนาโครงการ ภายใต้แบรนด์ “Living 2” อาคารสูง 30 ชั้น จำนวนประมาณ 200 ยูนิต มูลค่าลงทุน 1,300 ล้านบาท อยู่ในระหว่างการจัดทำ EIA คาดเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/2565 และพร้อมเปิดให้บริการในปี 2568 ปัจจุบัน บริษัทฯมี 6 โครงการเซอร์วิสฯ รวมทั้งสิ้น 1,300 ห้อง

“ธุรกิจการบริการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์นั้น ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด มีอัตราการเข้าพักสูง 80-97 เปอร์เซ็นต์ สามารถสร้างรายได้ถึง 750 ล้านบาทต่อปี แต่ในช่วงวิกฤตโควิดยอดอัตราการเข้าพักลดลงไปประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าในปี 2565 อัตราการเข้าพักจะเข้าสู่ภาวะที่ 80 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่านี้อย่างแน่นอน”

ปัจจุบัน บริษัทสยามอรุณฯ มีแลนด์แบงก์สะสมที่เป็นที่ดินเปล่า ที่ดินให้เช่า และเป็นที่ตั้งของอาคารต่างๆในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัด เกิน 30 แปลง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท(อิงตามราคาตลาด) โดยเฉพาะกรุงเทพฯมี 3 แปลงใหญ่ คือ ทองหล่อ พื้นที่ 5 ไร่ ปัจจุบันราคาที่ดินย่านดังกล่าวพุ่งไปแล้วประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา และย่านเอกมัย 2 แปลง คือ ซอย 7 จำนวน 4 ไร่ และซอย 22 จำนวน 2 ไร่ โดยย่านนี้ราคาที่ดินพุ่งไปที่ 1 ล้านบาทต่อตารางวา.