มิกกาแอล ซิลแวสต์ร ระบุ รู้สึกแย่สุดๆ ที่ รอย คีน ต้องบอกลา แมนฯ ยูไนเต็ด ในแบบที่แตกหักกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โดยมองว่าตอนนั้นมันเป็นสถานการณ์ที่เข้าขั้นหายนะ พร้อมบอกว่าตอนแรกคิดที่จะเกลี้ยกล่อม คีน เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก
มิกกาแอล ซิลแวสต์ร อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตนรู้สึกแย่มากๆ ที่ต้องทนเห็น รอย คีน แยกทางกับ “ปีศาจแดง” แบบเลวร้าย

คีน ถือเป็นหนึ่งในแกนหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นกัปตันทีมเว็บเล่นบอลออนไลน์ถูกกฎหมายที่ได้รับความเคารพจากหลายคน แต่เขากลับต้องแยกทางกับทีมในปี 2005 หลังจากตอนนั้นเขาตำหนิหลายคนของทีมแบบรุนแรงในการให้สัมภาษณ์กับ เอ็มยูทีวี สถานีโทรทัศน์อย่างเป็นทางการของสโมสร ภายหลังทีมแพ้ มิดเดิ้ลสโบรห์ 1-4 จนทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่พอใจมากๆ และทำให้ทั้งคู่แตกหักกันมาจนถึงทุกวันนี้ โดยก่อนหน้าที่ คีน จะแยกทางกับทีมนั้น เฟอร์กูสัน เรียกทุกคนในทีมมาที่ห้องประชุมและเปิดคลิปการให้สัมภาษณ์ของ คีน ให้ดูกันด้วย

ซิลแวสต์ร เผยว่า “ในฐานะนักเตะแล้วนั้นเรารู้ดีว่า รอย ตรงไปตรงมากับเราอยู่เสมอ เขาจะปฏิบัติกับทุกคนในแบบเดียวกัน เขาพูดว่า -สิ่งที่ฉันพูดไปใน เอ็มยูทีวีน่ะ เป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะพูดต่อหน้าพวกแกอยู่แล้ว- ดังนั้นมัน (การให้สัมภาษณ์ทาง เอ็มยูทีวี ของ คีน) เลยไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเลย”

“หลายคนคงจะตกใจอยู่แล้วน่ะนะถ้าในการให้สัมภาษณ์ทางทีวีมีการใช้คำพูดแบบเดียวกับที่พูดในห้องแต่งตัว แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ คีน จะพูดคำแบบนั้นและพูดด้วยอารมณ์ที่ดุเดือดในห้องแต่งตัว เพราะเขาหงุดหงิดมากๆ กับการที่ทีมระดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ 1-4 และยังเสียประตูกันง่ายๆ อีก”

“ที่จริงคุณจะโทษ เอ็มยูทีวี ก็อาจจะได้ (หมายถึงมองว่าเป็นความผิดของ เอ็มยูทีวี ที่เลือกสัมภาษณ์ คีน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า คีน อาจจะพูดแบบรุนแรง) ที่ทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์นั้น เพราะคุณน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า รอย จะไม่มีการยั้งคำพูดแน่ๆ มันจบลงด้วยความเลวร้ายระดับหายนะ แต่มันควรจะได้รับการจัดการที่ดีกว่านั้น”

“มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ต้องมาเห็นความสัมพันธ์ระหว่าง รอย, ผู้จัดการทีม และ คาร์ลอส เคยรอช เริ่มพังทลายลง เมื่อคุณได้แชมป์แล้วน่ะคุณก็อยากให้ทุกคนอยู่ด้วยกัน และมันไม่ควรจะมีความรู้สึกแย่ๆ ระหว่างกัน มันไม่ควรจะเกิดความลังเลเลยว่าคุณอยากทำงานร่วมกับใครหรืออยากสู้เพื่อใคร”

“ตอนนั้นผมรู้สึกแย่ที่ รอย เดินออกจากห้องประชุมมากๆ จนถึงขั้นที่ว่าผมเป็นคนแรกที่เดินออกจากห้องประชุมตามหลัง รอย ไปในอีกแค่ไม่กี่วินาทีต่อมา เพราะผมอยากพาเขากลับไปที่ห้องประชุม ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตอนจบที่เหมาะสม ดังนั้นผมเลยตามเขาไปถึงห้องแต่งตัว แต่สุดท้ายผมก็พูดอะไรไม่ออกในการที่จะทำให้เขาเปลี่ยนใจและเดินกลับขึ้นไปที่ห้องประชุมได้ ผมทำได้เพียงดูเขาเปลี่ยนเสื้อแล้วจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไป”