News

บล.กสิกรไทย วิเคราะห์ ไทยมีโอกาสน้อย “ถูกหั่นเครดิตประเทศ” ตาม 4 แบงก์

บล.กสิกรไทย ประเมินประเทศไทยมีโอกาสน้อย “ถูกหั่นเครดิต” แม้ล่าสุด S&P เพิ่งปรับลดเรตติ้ง 4 แบงก์ไทยไป พร้อมเปิด 4 ประเด็นสนับสนุน แนะช่วงสั้นชะลอลงทุนหุ้นกลุ่ม “แบงก์-ปิโตรฯ-อิเล็กทรอนิกส์” ไปก่อน

วันที่ 23 มีนาคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย (KSecurities) เปิดเผยว่า ทางบริษัทประเมินเชื่อว่าประเทศไทยมีโอกาสต่ำที่จะถูกหั่น Credit rating ลง หลังจากสถาบันจัดอันดับเรตติ้ง S&P ออกรายงาน Downgrade rating (ปรับลดอันดับเครดิต) 4 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) และธนาคารกรุงไทย (KTB) ลง 1 อันดับ

แต่ยังคง Rating ของธนาคารกรุงเทพ (BBL) และธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ทำให้เกิดความกังวลว่าต่อไปจะเกิดการ Downgrade อันดับความน่าเชื่อถือประเทศไทย (Credit rating) ลงตามต่อในระยะถัดไป

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย ประเมินจากข้อมูลทางเศรษฐกิจและข้อมูลต่าง ๆ เชื่อว่าประเทศไทยมีโอกาสต่ำที่จะถูกหั่น Credit rating ลง

โดยมี 4 ประเด็นที่สนับสนุนความเชื่อ คือ

1) Indicator (ตัวชี้วัด) ที่เป็นตัวชี้วัดที่สถาบันจัดอันดับ rating พิจารณาปรับเพิ่ม/ลด rating ประเทศ ข้อมูลล่าสุด ปี 2564 ยังเห็นหลาย Indicator ในทิศทางดีขึ้นเทียบกับในอดีต (เศรษฐกิจมหภาค อาทิ GDP Percapita ดัชนีวัดความสามารถในการแข่งขัน ด้านการคลังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง, สถานะต่างประเทศ : สัดส่วนการลงทุนระหว่างประเทศสุทธิต่อ GDP เป็นบวก)

2) การที่ S&P คง rating ธนาคาร BBL ที่ Rating BBB+ ดังนั้น ประเทศไทยก็ควรจะได้ Rating ที่สูงกว่าบริษัท

3) จากสถิติในอดีตประเทศไทย ถูกคง (S&P คง Rating ที่ BBB+) ที่เดิมมาตั้ง ก.ย. 2547 – ปัจจุบัน รวมติดต่อกัน 18 ปี และผ่านวิกฤต 2 ครั้งล่าสุด อาทิ Subprime ในปี 2550-2551, น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ยังไม่เคยถูกปรับ Rating ลง

4) Indicator ที่เป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงการประเทศ อิงผ่าน CDS Spread 5 ปี เบี้ยประกันความเสี่ยงของการผิดนัดชําระหนี้ไทย ล่าสุดอยู่ที่ 43 ขึ้นเล็กน้อยจากต้นปี ยังต่ำเมื่อเทียบกับในอดีต อาทิ วิกฤต Subprime และน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ซึ่งสูงถึง 250

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ บล.กสิกรไทยชี้ว่า ในช่วงสั้นยังแนะนำชะลอการลงทุนในกลุ่มธนาคาร, กลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ออกไปก่อน ส่วนกลุ่มที่แนะนำลงทุนในช่วงนี้ คือ กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG, OSP) กลุ่มการเงิน (TIDLOR, ASK, THANI, AEONTS, BAM) กลุ่ม Tech Consult อาทิ BBIK, BE8 กลุ่มโรงไฟฟ้า (SSP) กลุ่ม ICT (DTAC, TRUE) ซึ่งประเมินเป็นหลุมหลบภัยในรอบนี้

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance/